7 วิธีดูแลรถยนต์ช่วงหน้าร้อน ช่วยให้รถไม่เจ๊ง รีบอ่านก่อนที่รถจะพัง !

หน้าร้อนส่งผลกระทบต่อรถยนต์อย่างไรบ้าง?

อุณหภูมิที่สูงในหน้าร้อน จะส่งผลกระทบในระยะยาวให้รถของคุณเสื่อมสภาพและเกิดผลเสียในด้านต่าง ๆ ดังนั้นจึงต้องเตรียมตัวให้ดีอยู่เสมอ แล้วหน้าร้อนส่งผลต่อรถยนต์อย่างไรบ้าง ไปดูกันค่ะ

1.ฟิล์มรถยนต์โดนความร้อนและแสงแดดมากเกินไป จนทำให้เกิดการเสื่อมสภาพ ส่งผลให้ด่านตั้งรับของรถยนต์คุณได้รับผลกระทบจนลุกลามไปยังส่วนต่าง ๆ ฟิล์มอาจหลุดลอกหรือกรอบไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้

2.เครื่องปรับอากาศภายในรถยนต์ทำงานหนักมาก อุณหภูมิที่สูงเกินไปจากภายใน ส่งผลกระทบให้ภายในรถยนต์ต้องต่อสู้กับความร้อนด้านนอกนั่นเอง

3.อุณหภูมิที่สูงเกินไป ทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนัก และส่งผลกระทบไปยังส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการระบายความร้อน

4.อุปกรณ์รถยนต์ทั้งภายในและภายนอกเกิดการเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่เป็นพลาสติก ไฟเบอร์ หรือยาง ที่อาจจะเกิดการหลุดหล่น แตกหักหรือกรอบได้ ( สามารถลดความเสียหายในส่วนนี้ได้ ด้วยการใช้ น้ำยาฟื้นฟูพลาสติก )

5.ยางรถยนต์ มีความเสี่ยงในการระเบิดหรือได้รับผลกระทบ จากแรงเสียดทานของยางมีปัญหาเกิดขึ้น

อ่านเพิ่มเติม : 7 วิธีดูแลรถเมื่อต้องจอดรถตากแดดกลางแจ้งเป็นเวลานาน ๆ เป็นประจำทุกวัน

การดูแลรักษารถยนต์ในช่วงหน้าร้อน

หลังจากที่เห็นถึงผลกระทบต่อรถยนต์ในหน้าร้อนแล้ว เชื่อว่าหลายคนจะต้องเร่งมองหาวิธีการ ดูแลรักษารถในหน้าร้อน แล้วควรทำอย่างไรดี ไปดู 7 วิธีง่าย ๆ ต่อไปนี้กัน

1.หมั่นตรวจเช็คระบบแอร์รถยนต์

ระบบปรับอากาศหรือแอร์รถยนต์ เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ยิ่งโดยเฉพาะในหน้าร้อน ที่ควรหมั่นตรวจสอบเป็นประจำ ว่าปริมาณน้ำยาแอร์อยู่ในระดับใด เหลือมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้คุณสามารถแก้ไข และจัดการเรื่องระบบทำความเย็นได้อย่างรวดเร็ว

2.เปลี่ยนน้ำมันเครื่องอย่างสม่ำเสมอ

อุณหภูมิที่สูงขึ้นในหน้าร้อน ทำให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างหนัก สิ่งที่จะช่วยบรรเทาได้อย่างดีก็คือ น้ำมันเครื่อง ที่ผู้ใช้งานควรตรวจเช็คและเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องยนต์

3.ควรเปิดกระจกรถยนต์ระบายความร้อนก่อนใช้งานแอร์

ก่อนที่จะเปิดระบบปรับอากาศภายในรถ ควรที่จะเปิดหรือแง้มกระจกเพื่อที่จะระบายและไล่ความร้อนที่อัดแน่นอยู่ภายในตัวรถยนต์ ประมาณ 3 – 5 นาที เพื่อให้เครื่องไม่ทำงานหนัก และรถจะมีความเย็นที่เร็วมากยิ่งขึ้นซึ่งจะช่วยให้ประหยัดพลังงาน

4.เช็คลมยางรถยนต์เป็นประจำ

อากาศที่ร้อนมากจะส่งผลต่อยางรถยนต์ ทำให้ภายในยางเกิดความดันที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อแรงเสียดทานและการขับขี่เมื่อต้องเจอพื้นถนนที่เปียก ลื่น เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นควรที่จะหมั่นตรวจเช็คลม ยางอะไหล่ และสภาพของยางเป็นประจำเดือนละ 1-2 ครั้ง

5.ตรวจสอบความปกติของระบบเบรก

ระบบเบรก ก็สำคัญมากเช่นเดียวกัน เป็นระบบความปลอดภัยที่จะช่วยคุณลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี ควรหมั่นสังเกตถึงเสียงที่ดัง อาการสั่น หรือระยะการหยุดที่ยาวมากกว่าปกติ และควรตรวจเช็คเป็นประจำ

6.หลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดด ควรจอดในที่ร่ม

ควรหลีกเลี่ยงการจอดรถยนต์ในพื้นที่กลางแจ้ง เรื่องในสภาพอากาศที่ร้อนและมีแสงแดดแรง เพราะอาจจะทำให้ห้องโดยสารเกิดความอบอ้าวและมีอุณหภูมิที่พุ่งสูง ส่งผลกระทบต่อส่วนต่าง ๆ อย่างเช่นทำให้ผิวสีรถยนต์ซีดลง จนทำให้ต้องเสียเวลาเคลือบสีรถยนต์ใหม่ ฉะนั้นควรจอดรถในพื้นที่ร่ม หรือใช้ผ้าคลุมรถเพื่อป้องกัน และหลีกเลี่ยงไม่ให้รถต้องเผชิญกับแสงแดดมากเกินไป

แต่ถ้าหากว่าเพื่อน ๆ มีความจำเป็นต้องจอดรถกลางแจ้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ขอแนะนำว่าให้ดูแลสีรถยนต์ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลรถอย่าง น้ำยาเคลือบสีรถ นั่นเองค่ะ เพราะว่าจะช่วยปกป้องรถยนต์จากแสงแดดอันร้อนแรงของประเทศไทยค่ะ

อ่านเพิ่มเติม : เคลือบสีรถยนต์ ดีอย่างไร เลือกแบบไหนถึงจะคุ้มค่ามากที่สุด !

7.ระบบไฟฟ้าและแบตเตอรี่

อากาศที่ร้อนมากในประเทศไทย อาจจะส่งผลกระทบต่อแบตเตอรี่รถยนต์และระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ดังนั้นควรที่จะตรวจเช็คอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ทั้งในส่วนของขั้วและสายไฟ น้ำกลั่นและระบบแบตเตอรี่

สภาพอากาศในเมืองไทย เป็นอย่างที่ทราบกันดีกว่ามีมีความร้อนที่พุ่งสูง และแสงแดดที่แรงตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่จะต้องดูแลรถยนต์อย่างเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพและปัญหาต่าง ๆ ในด้านการขับขี่ และผลกระทบที่ได้รับจากอุณหภูมิที่สูง 9Autoccare หวังว่าบทความ วิธีการดูแลรถช่วงหน้าร้อน ที่นำมาฝากเพื่อน ๆ จะเป็นประโยชน์กันนะค้า

ถ้าต้องการปรึกษาปัญหาเรื่องที่รถมีสีซีด ไม่ฉ่ำวาว เพราะโดดแสงแดด สามารถปรึกษาติดต่อทีมงานเราได้ตลอดเลยค่ะ รับรองว่ามีทางออกให้กับเพื่อน ๆ อย่างแน่นอน 100%